การพาผู้สูงอายุไปหาหมอ เป็นกระบวนการที่ครอบครัวหรือผู้ดูแลจะต้องใส่ใจเป็นพิเศษ เนื่องจากผู้สูงอายุมีร่างกายที่เสี่ยงต่อการเกิดโรคประจำตัวหรือมีอาการแทรกซ้อนต่างๆ ได้ง่ายกว่ากลุ่มวัยรุ่น ดังนั้น การเตรียมตัวและการดูแลทั้งก่อน ระหว่าง และหลังจากการไปหาหมอ จึงเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้ผู้สูงอายุได้รับการรักษาที่เหมาะสมและมีประสิทธิภาพ รวมไปถึงช่วยให้หมอสามารถตรวจร่างกายได้ทันท่วงที หากพบอาการผิดปกติ ญาติหรือครอบครัวก็จะให้การดูแลผู้สูงอายุได้อย่างถูกต้อง
บทความนี้ SaiJai.co จึงจะนำเสนอวิธีการเตรียมตัวและการดูแลผู้สูงอายุ เมื่อต้องพาผู้สูงอายุไปหาหมอ จะมีรายละเอียดอะไรบ้าง? ต้องเตรียมตัวอย่างไร มาดูกัน!
การเตรียมตัวก่อนพาผู้สูงอายุไปหาหมอ
การพาผู้สูงอายุไปหาหมอ ไม่เพียงต้องให้ความสำคัญกับการนัดหมายที่ตรงต่อเวลาเท่านั้น แต่การเตรียมตัวที่ดีจะช่วยให้กระบวนการตรวจรักษาเป็นไปอย่างราบรื่นและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น มาดูกันว่ามีสิ่งใดบ้างที่ครอบครัวควรเตรียมพร้อมและให้การดูแลผู้สูงอายุก่อนพาไปหาหมอ
-
นัดหมายล่วงหน้าก่อนเสมอ
การนัดหมายล่วงหน้าจะช่วยให้เราสามารถเตรียมพร้อมร่างกายของผู้สูงอายุสำหรับการตรวจร่างกายได้เหมาะสมยิ่งขึ้น โดยควรเลือกเวลาที่ผู้สูงอายุมีสภาวะร่างกายที่แข็งแรง ตื่นตัว และสดชื่น เช่น ช่วงเช้า ซึ่งจะทำให้การเดินทางไปหาหมอไม่เป็นภาระต่อร่างกายมากเกินไป นอกจากนี้ หากผู้สูงอายุต้องการความช่วยเหลือเป็นพิเศษ เช่น การใช้รถเข็นหรืออุปกรณ์ช่วยเดิน ครอบครัวก็ควรแจ้งให้ทางโรงพยาบาลทราบล่วงหน้าด้วย เพื่อที่เจ้าหน้าที่จะได้เตรียมบริการไว้รองรับผู้สูงอายุเมื่อเดินทางไปถึงโรงพยาบาล
-
เตรียมเอกสารทุกอย่างให้พร้อม
นอกจากเอกสารเกี่ยวกับสุขภาพของผู้สูงอายุแล้ว ครอบครัวควรเตรียมบัตรประชาชนหรือบัตรประกันสุขภาพเอาไปด้วย รวมไปถึงเช็กประวัติการรักษาของท่าน เพื่อให้หมอมีข้อมูลเกี่ยวกับการรักษาที่ผ่านมาครบถ้วน หากมีผลการตรวจเลือด ผลการ X-ray หรือเอกสารการทดสอบอื่นๆ ก็ควรนำติดตัวไปด้วยเพื่อใช้ประกอบการวินิจฉัยเพิ่มเติม นอกจากนี้ หากได้รับการส่งตัวจากแพทย์ประจำตัวหรือโรงพยาบาลอื่นๆ ก็ควรนำใบส่งตัวไปด้วยเช่นกัน เอกสารที่พร้อมจะช่วยประหยัดเวลาในการเดินเรื่องเอกสาร และช่วยให้ผู้สูงอายุเข้าสู่ระบบการรักษาได้เร็วขึ้นด้วย
-
สังเกตอาการและบันทึกเอาไว้ให้เรียบร้อย
สำหรับผู้สูงอายุที่จะต้องไปรับการตรวจร่างกายเป็นประจำอยู่แล้ว ครอบครัวจะต้องคอยสังเกตอาการและบันทึกข้อมูลเอาไว้เสมอ เป็นการเก็บรายละเอียดเอาไว้เพื่อให้หมอนำไปประกอบแผนการรักษา (กรณีที่ต้องพาผู้สูงอายุไปหาหมอแบบฉุกเฉิน ก็ต้องจดจำอาการเบื้องต้นเอาไว้เช่นกัน) นอกจากนี้ ควรรวบรวมรายชื่อยาที่ผู้สูงอายุทานเป็นประจำ รวมถึงข้อมูลการแพ้ยาต่างๆ เพื่อให้หมอสามารถตัดสินใจเกี่ยวกับแผนการรักษาและสามารถสั่งจ่ายยาที่เหมาะสมได้เร็วขึ้น
-
เตรียมตัวผู้สูงอายุด้วย
การตรวจร่างกายนั้นต้องเตรียมตัวให้พร้อมเสมอก่อนไปหาหมอ ไม่ว่าจะเป็นการพักผ่อนให้เพียงพอ การดื่มน้ำ การทานอาหาร หรืออื่นๆ โดยเฉพาะหากหมอแจ้งล่วงหน้าว่าจะต้องงดน้ำหรืออาหารก่อนการตรวจ ก็ควรปฏิบัติตามคำแนะนำอย่างเคร่งครัด (เครื่องมือตรวจร่างกายบางอย่างจะแม่นยำและปลอดภัยกว่า) นอกจากนี้ สภาพจิตใจของผู้สูงอายุก็เป็นสิ่งสำคัญ ควรสร้างความมั่นใจและอธิบายขั้นตอนต่างๆ ให้ผู้สูงอายุเข้าใจ เพื่อไม่ให้ผู้สูงอายุกังวลว่าจะเกิดอันตรายต่อร่างกาย
-
เตรียมคำถามเกี่ยวกับสุขภาพที่เรากังวล
คนที่ดูแลใกล้ชิดหรือครอบครัวเป็นกลุ่มที่อยู่กับผู้สูงอายุมากที่สุด ดังนั้น จึงอาจจะสังเกตเห็นอาการผิดปกติของผู้สูงอายุได้ชัดเจนกว่า หากมีความกังวลว่าอาการเหล่านี้อาจก่อให้เกิดอันตรายหรือมีความเสี่ยงในการเกิดโรคหรือไม่ ก็ควรบันทึกเอาไว้เพื่อเตรียมสอบถามหมอโดยตรงในวันที่ไปโรงพยาบาล ยกตัวอย่างคำถามเช่น
-
- ความดันผู้สูงอายุจะต้องอยู่ที่เท่าไหร่ถึงเรียกว่าปกติ?
- ผู้สูงอายุออกกำลังกายเพียงพอหรือไม่? (จะต้องมีรายละเอียดกิจกรรมแต่ละวันของผู้สูงอายุประกอบด้วย)
- ประวัติทางสุขภาพของครอบครัวที่อาจส่งต่อทางพันธุกรรม (อาจระบุโรคให้หมอทราบด้วย) จะทำให้เสี่ยงเป็นโรคเดียวกันไหม?
- อาการเหล่านี้ (ระบุอาการที่พบแล้วทำให้กังวล) มีความผิดปกติไหม? อันตรายหรือเปล่า?
- ในวัยนี้/ช่วงนี้ ควรทำกิจกรรมหรือเน้นโภชนาการด้านไหนเป็นพิเศษไหม?
การพาผู้สูงอายุไปหาหมอ ต้องทำอย่างไร?
เมื่อถึงวันที่ต้องพาผู้สูงอายุไปหาหมอ การดูแลระหว่างการเดินทางและการตรวจสุขภาพในคลินิกหรือโรงพยาบาลต้องได้รับความเอาใจใส่เป็นพิเศษ เพราะในวันจริงจะทำให้ผู้สูงอายุเกิดความเครียดหรือวิตกกังวลมากกว่าปกติ ดังนั้น จึงจำเป็นต้องทราบรายละเอียดในการพาผู้สูงอายุไปหาหมอดังต่อไปนี้
-
วางแผนการเดินทางให้ดี
อย่างที่ทราบกันดีว่าการพาผู้สูงอายุเดินทางไปหมออาจจะสร้างความลำบากให้แก่ร่างกายผู้สูงอายุ ดังนั้น เราควรเลือกยานพาหนะที่เหมาะสม เพื่อไม่ให้เป็นภาระร่างกายของผู้สูงอายุมากเกินไป เช่น รถยนต์ส่วนตัวที่มีพื้นที่กว้างขวางให้นั่งสบาย หรือการจ้างรถพยาบาลสำหรับผู้สูงอายุที่ไม่สามารถเคลื่อนไหวได้คล่องแคล่ว เป็นต้น นอกจากนี้การวางแผนเส้นทางล่วงหน้าก็สำคัญเช่นกัน ควรคำนึงถึงความสะดวกในการเดินทาง ความปลอดภัย และกำหนดเวลาที่จะใช้ในการเดินทาง โดยควรหลีกเลี่ยงเส้นทางที่มีการจราจรติดขัด หรือเลือกเดินทางในเวลาที่จราจรสะดวก เพราะอาจทำให้เสียเวลากว่าเดิมและอาจสร้างภาระให้กับร่างกายของผู้สูงอายุมากเกินไป
-
เตรียมสิ่งของจำเป็นสำหรับการเดินทาง
ระหว่างการเดินทาง โดยเฉพาะในกรณีที่ต้องเดินทางนานหลายชั่วโมง ครอบครัวควรเตรียมสิ่งของที่ผู้สูงอายุอาจต้องใช้ เช่น น้ำดื่ม อาหารว่าง และยาประจำตัวที่ต้องทานตามเวลา เช่น ยาความดันหรือยาควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด นอกจากนี้ควรเตรียมอุปกรณ์ช่วยเหลือ เช่น ไม้เท้า, เก้าอี้รถเข็น หรืออุปกรณ์ที่ช่วยให้ผู้สูงอายุรู้สึกสะดวกสบายระหว่างการเดินทาง การตรวจสอบและเตรียมอุปกรณ์เหล่านี้ให้พร้อมก่อนออกเดินทางจะช่วยลดความยุ่งยากระหว่างการพาผู้สูงอายุไปหาหมอได้มาก
-
ให้การดูแลผู้สูงอายุระหว่างการรอพบหมอ
เมื่อถึงโรงพยาบาลหรือคลินิก อาจต้องมีการรอคิวก่อนเข้าพบหมอ ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ผู้สูงอายุอาจรู้สึกไม่สบายตัว เบื่อหน่าย และอาจสร้างความลำบากทางร่างกายเมื่อต้องนั่งรอคิว ดังนั้นควรเตรียมความพร้อม เช่น จัดเตรียมอาหารว่างเบาๆ จัดเตรียมน้ำดื่มและยาในกรณีที่ต้องทานยาเป็นประจำระหว่างที่กำลังรอคิว นอกจากนี้ การดูแลให้ผู้สูงอายุมีที่นั่งที่สบายหรือการปรับตำแหน่งนั่งเพื่อความสะดวกก็เป็นสิ่งที่ควรใส่ใจด้วยเช่นกัน
-
ช่วยเหลือผู้สูงอายุระหว่างเข้าพบหมอ
การพาผู้สูงอายุไปหาหมอในห้องตรวจ ควรช่วยเหลือในการเข้าออกห้องตรวจด้วย โดยเฉพาะผู้สูงอายุที่มีปัญหาในการเคลื่อนไหว และระหว่างการตรวจ ครอบครัวหรือผู้ดูแลก็ควรอยู่ด้วยเพื่อช่วยตอบคำถามหรืออธิบายข้อมูลเพิ่มเติมที่หมอต้องการทราบ ซึ่งจะช่วยให้หมอสามารถทำการวินิจฉัยและแนะนำการรักษาได้แม่นยำขึ้น
-
ช่วยผู้สูงอายุรับยาและลงนัดหมายครั้งถัดไป
หลังการตรวจเสร็จสิ้น บางกรณีที่จะต้องมีการรับยา ครอบครัวก็ควรดำเนินการรับเอกสารและยื่นแจ้งขอรับยาให้ด้วย เพื่อความสะดวกรวดเร็ว โดยควรตรวจสอบว่ายาที่ได้รับตรงกับคำแนะนำของหมอหรือเปล่า และอธิบายวิธีการใช้ยาให้แก่ผู้สูงอายุด้วย รวมถึงควรจัดเตรียมการนัดหมายครั้งถัดไปกรณีที่หมอต้องการติดตามผลการรักษา นอกจากนี้ ควรจัดเก็บเอกสารต่างๆ เช่น ใบสั่งยาและนัดหมายไว้อย่างเป็นระเบียบเพื่อไม่ให้เกิดการสับสนในภายหลัง และเพื่อให้ง่ายต่อการพาผู้สูงอายุมาหาหมอครั้งต่อๆ ไปด้วย
การดูแลผู้สูงอายุหลังจากพาไปหาหมอ
หลังจากการพาผู้สูงอายุไปหาหมอแล้ว การดูแลต่อที่บ้านก็เป็นสิ่งสำคัญเพื่อให้ผู้สูงอายุฟื้นฟูร่างกายได้อย่างเต็มที่และปฏิบัติตามคำแนะนำของหมอได้อย่างเคร่งครัด นอกจากนี้ การสังเกตอาการและปรับการดูแลตามที่หมอแนะนำจะช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดภาวะแทรกซ้อนหรืออาการไม่พึงประสงค์หลังการรักษา มาดูกันว่าควรให้การดูแลผู้สูงอายุอย่างไรหลังจากพาไปหาหมอ
-
ดูแลการใช้ยาของผู้สูงอายุ
หลังจากได้รับยามาแล้ว ผู้ดูแลก็ควรตรวจสอบให้แน่ใจว่าผู้สูงอายุสามารถทานยาตามที่หมอกำหนดไว้ได้หรือไม่ โดยเบื้องต้นจะต้องอธิบายวิธีการทานยาที่ถูกต้อง เช่น ปริมาณที่ต้องทานต่อวัน เวลาในการทาน และวิธีทานยาอย่างถูกต้อง หากผู้สูงอายุมีความจำเป็นต้องทานยาหลายชนิด ควรจัดการแบ่งยาตามเวลาและประเภทให้ชัดเจน เช่น การใช้กล่องยาที่แบ่งเป็นช่องๆ ตามวันและเวลา เป็นต้น
-
ดูแลการพักผ่อนร่างกายของผู้สูงอายุ
หลังจากการเดินทางไปพบหมอ ผู้สูงอายุมักจะเหนื่อยล้ามากกว่าคนหนุ่มสาว ดังนั้น ครอบครัวควรจัดสภาพแวดล้อมที่เงียบสงบและเหมาะสมสำหรับการพักผ่อนเอาไว้ให้ด้วย กรณีที่หมอแนะนำให้ปรับการใช้ชีวิตประจำวัน เช่น ลดการออกกำลังกายหนัก ครอบครัวก็ควรปรับตารางดังกล่าวทันที
-
ช่วยติดตามผลการรักษา
ส่วนใหญ่แล้ว หากผู้สูงอายุเป็นโรคหรือมีความเสี่ยงต่อการเกิดโรค หมอมักจะนัดหมายอีกครั้งเพื่อติดตามผลการรักษาหรือตรวจร่างกายเพิ่มเติม ควรจัดตารางการนัดหมายไว้ในที่เห็นชัดเจนเพื่อป้องกันการหลงลืมและให้ทราบว่าจะต้องเริ่มเตรียมความพร้อมในการพาผู้สูงอายุไปหาหมอตามนัดครั้งต่อไปเมื่อใด
-
ให้กำลังใจและสร้างความสัมพันธ์อันดีกับผู้สูงอายุ
หลังพาไปหาหมอ ผู้สูงอายุบางคนอาจมีความกังวลเกี่ยวกับผลการตรวจหรือการรักษา ดังนั้น ครอบครัวหรือผู้ดูแลควรจะใส่ใจและจัดเตรียมความพร้อมในด้านต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการติดตามผล การดูแลผู้สูงอายุในชีวิตประจำวัน สร้างความสะดวกในการดูแลตัวเอง ซึ่งจะช่วยให้ผู้สูงอายุมีกำลังใจและกังวลเรื่องสุขภาพน้อยลง นอกจากนี้ ก็ควรหากิจกรรมคลายเครียดทำร่วมกับท่านด้วย เพื่อสร้างความสัมพันธ์อันดีและทำให้ท่านรู้สึกสบายใจในการอยู่กับครอบครัว
สรุป พาผู้สูงอายุไปหาหมอ ไม่ยากเพียงแค่ใส่ใจ
การเตรียมตัวและการดูแลเมื่อต้องพาผู้สูงอายุไปหาหมอ ต้องอาศัยการวางแผนขั้นตอนต่างๆ ล่วงหน้าจะดีที่สุด ทั้งในเรื่องของการนัดหมาย การเตรียมเอกสาร การเตรียมร่างกาย การเตรียมยา รวมถึงการดูแลร่างกายและจิตใจของผู้สูงอายุระหว่างการเดินทางไปหาหมอ ไปจนถึงเมื่อต้องเข้ารับการตรวจร่างกายและหลังจากนั้นด้วยเช่นกัน การเตรียมพร้อมอย่างเหมาะสมนี้จะช่วยให้ผู้สูงอายุมีความสบายใจและลดความกังวลในการไปเข้าพบหมอได้มาก ซึ่งจะช่วยให้ครอบครัวสามารถดำเนินการได้สะดวก ตรวจร่างกายจบไว หากมีสิ่งผิดปกติก็จะสามารถระบุอาการหรือความเสี่ยงได้เร็ว
แต่สำหรับครอบครัวใดที่ไม่สามารถพาผู้สูงอายุไปหาหมอได้ หรือมีภาระอื่นๆ ที่ทำให้ไม่สามารถจัดแจงเวลาได้สะดวก SaiJai.co ขอแนะนำบริการ Day Care ผู้สูงอายุ สำหรับให้การดูแลผู้สูงอายุรายวันอย่างครอบคลุม คัดเลือกมาให้แล้วจากทั่วกรุงเทพและต่างจังหวัด ค้นหาบริการใกล้บ้านได้แค่คลิกเดียว!