“สูงวัยอย่างมีคุณภาพ เริ่มต้นที่การดูแลอย่างถูกวิธี”
ในยุคที่สังคมไทยกำลังก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุอย่างรวดเร็ว การดูแลผู้สูงอายุอย่างเหมาะสมและปลอดภัยจึงเป็นสิ่งที่สำคัญยิ่ง หลายครอบครัวอาจประสบปัญหาในการดูแลผู้สูงอายุด้วยตัวเอง “คนดูแลผู้สูงอายุที่บ้าน” จึงกลายเป็นทางเลือกที่ได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ
แต่การเลือก “คนดูแลผู้สูงอายุ” ที่ดี ปลอดภัย และมีคุณภาพนั้น ใช่ว่าจะทำได้ง่าย บทความนี้ Saijai.co รวบรวมข้อมูลครบถ้วนเกี่ยวกับวิธีการเลือก “คนดูแลผู้สูงอายุ” ที่บ้าน เพื่อให้คุณสามารถมอบความสบายใจ ปลอดภัย และคุณภาพชีวิตที่ดีให้กับผู้สูงอายุที่คุณรัก
10 เทคนิคเลือกคนดูแลผู้สูงอายุที่บ้านให้ปลอดภัยและมีคุณภาพ
-
กำหนดความต้องการของผู้สูงอายุและครอบครัวก่อน
ก่อนที่จะคัดเลือกผู้ดูแล เราจำเป็นต้องกำหนดความต้องการของผู้สูงอายุและครอบครัวก่อน ซึ่งจะต้องคำนึงถึงสุขภาพของผู้สูงอายุก่อนเป็นอันดับแรก ว่าผู้สูงอายุมีปัญหาสุขภาพอย่างไร ต้องการการดูแลแค่ไหน รวมไปถึงประเมินกำลังใช้จ่ายของคนในครอบครัวด้วย การกำหนดความต้องการจะช่วยให้เรามองเห็นเป้าหมายและเลือกคนดูแลผู้สูงอายุที่ตอบโจทย์เราได้เร็วและชัดเจนขึ้น
-
- ขอคำแนะนำจากคนรอบข้างหรือแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ
ในขั้นตอนเริ่มต้น เราอาจจะต้องปรึกษากับคนรอบข้างก่อนว่าจะเลือกคนดูแลผู้สูงอายุอย่างไรดี เนื่องจากกลุ่มเพื่อน คนรู้จัก หรือแพทย์ประจำตัวผู้สูงอายุอาจจะสามารถให้คำแนะนำกับเราได้ หรืออาจถึงขั้นแนะนำผู้ดูแลที่มีความเชี่ยวชาญให้กับเราโดยตรง ช่วยในการประหยัดเวลาและมั่นใจในระดับหนึ่งว่าคนดูแลได้รับการรับรองมาแล้ว
-
- เช็กประวัติก่อนเสมอ
การเลือกคนดูแลผู้สูงอายุก็เปรียบเสมือนการรับสมัครงานทั่วไป สิ่งที่สำคัญคือการตรวจสอบประวัติการทำงานของบุคคลนั้นอย่างรอบคอบ เพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีประวัติอาชญากรรมใดๆ ช่วยให้เราสบายใจว่าถึงแม้เราจะไม่อยู่บ้าน แต่ก็ยังมีผู้ดูแลที่น่าไว้ใจอยู่
-
- เช็กประสบการณ์การทำงาน
ประสบการณ์การทำงานสำหรับคนดูแลผู้สูงอายุที่บ้านนั้นเป็นปัจจัยที่สำคัญต่อการคัดเลือกอย่างมากเช่นกัน โดยผู้ดูแลที่มีประสบการณ์ดูแลผู้สูงอายุหรือผู้ป่วยมาก่อนจะช่วยให้เรามั่นใจได้ว่าบุคคลดังกล่าวมีความเชี่ยวชาญจริง ทำให้การดูแลในด้านต่างๆ มีความคล่องแคล่ว รวดเร็ว และสามารถอำนวยความสะดวกให้กับผู้สูงอายุได้เป็นอย่างดี
-
- พูดคุยหรือสัมภาษณ์เพื่อประเมินทักษะ
การสัมภาษณ์ผู้สมัครเป็นขั้นตอนที่สำคัญในการประเมินทักษะและความเหมาะสม เราควรตั้งคำถามเกี่ยวกับประสบการณ์ในการดูแลผู้สูงอายุและทักษะที่เกี่ยวข้อง เช่น การปฐมพยาบาล การจัดการยา ความสามารถในการช่วยเหลือการเคลื่อนไหวของผู้สูงอายุ หรืออื่นๆ ขึ้นอยู่กับเป้าหมายที่กำหนดไว้ของเราในข้อแรก ระหว่างนี้ควรประเมินทัศนคติและความอดทนของผู้สมัครที่มีต่อการดูแลผู้สูงอายุด้วย
-
- ตรวจสอบเอกสารที่เกี่ยวข้อง
การตรวจสอบเอกสารอ้างอิงจากนายจ้างเก่าหรือบุคคลที่เคยทำงานร่วมกับผู้สมัครเป็นวิธีที่ดีในการรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับความสามารถและนิสัยของผู้สมัครคนนั้นๆ การติดต่อสื่อสารกับบุคคลที่เกี่ยวข้องจะช่วยให้เราได้รับข้อมูลที่เป็นประโยชน์ในการตัดสินใจ นอกจากนี้ เราจะต้องตรวจสอบข้อมูลจริงของเอกสารอื่นๆ เช่น ใบอบรม ใบรับรองอาชีพ เป็นต้น
-
- ให้ทดลองงานก่อนเริ่มจ้างงานจริง
การทดลองงาน เป็นหนึ่งในวิธีที่ดีที่สุดที่จะช่วยให้เราทราบว่ากระบวนการทำงานของผู้สมัคร ความเชี่ยวชาญและความราบรื่นในการทำงานมีมากน้อยแค่ไหน ในระหว่างนี้เราจะสามารถสังเกตและประเมินความสามารถ ทักษะการดูแล การสื่อสาร บุคลิกภาพ ความอดทนใจเย็นได้ชัดเจนกว่าการสัมภาษณ์เพียงอย่างเดียว
-
- ประเมินความเข้ากันได้กับผู้สูงอายุ
นอกเหนือจากการประเมินทักษะของผู้สมัครแล้ว เราจะต้องประเมินความเข้ากันได้ระหว่างคนดูแลและตัวผู้สูงอายุเองด้วย เพราะคนดูแลผู้สูงอายุจะต้องอยู่ใกล้ชิดกับผู้สูงอายุเกือบตลอดเวลาจนเหมือนกันเป็นคนในครอบครัว จึงจำเป็นต้องสังเกตระหว่างการทดลองงานว่าผู้สูงอายุมีความสบายใจที่จะให้ผู้สมัครท่านนี้ดูแลมากแค่ไหน มีความพึงพอใจกับความสามารถและทักษะในการดูแลหรือไม่ ข้อนี้สำคัญมาก เพราะหากคนดูแลและผู้สูงอายุสามารถเข้ากันได้ดี ก็จะช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุ อีกทั้งผู้สูงอายุก็จะสามารถมีเพื่อนคุยหรือคนที่ไว้ใจทำกิจกรรมต่างๆ ร่วมกันได้อย่างสบายใจยิ่งขึ้น
-
- ตรวจสอบค่าจ้างและสัญญาจ้าง
เมื่อตัดสินใจได้แล้วว่าจะเลือกผู้สมัครท่านใด ก็จะเข้าสู่ขั้นตอนการว่าจ้างอย่างเป็นทางการ โดยคนในครอบครัวที่รับผิดชอบการว่าจ้างจะต้องกำหนดรายละเอียดความต้องการต่างๆ เอาไว้ให้ชัดเจน เช่น ต้องการการดูแลตั้งแต่การเคลื่อนไหว การจัดการกิจวัตรภายในบ้าน ต้องพาออกนอกบ้าน ต้องพาไปพบแพทย์ ต้องจัดโภชนาการ การดูแลสุขภาพเบื้องต้น เวลาเริ่มงานหรือชั่วโมงการทำงานต่อวัน เพื่อลดปัญหาเกี่ยวกับสัญญาว่าจ้างในภายหลัง
-
- อย่าด่วนตัดสินใจ เลือกสิ่งที่ใช่ที่สุด
ข้อนี้เป็นข้อที่สำคัญที่สุดในการหาคนดูแลผู้สูงอายุ ในบางสถานการณ์ที่ต้องเร่งรีบหาผู้ดูแล เราอาจจะไม่ได้มีตัวเลือกมากนัก แนะนำว่าอย่าด่วนตัดสินใจเลือกไปก่อน ผู้ที่สามารถดูแลผู้สูงอายุได้นั้นต้องมีความเชี่ยวชาญจริง และต้องเข้ากันได้กับผู้สูงอายุด้วย ทางที่ดีที่สุดให้เลือกคนที่ผู้สูงอายุอยู่ด้วยแล้วสบายใจที่สุด
เลือกคนดูแลผู้สูงอายุไม่ได้ ทำอย่างไรดี?
ในบางสถานการณ์ การเลือกคนดูแลผู้สูงอายุที่บ้านอาจจะเป็นทางเลือกที่ไม่สะดวกเท่าใดนัก เนื่องจากขั้นตอนที่ซับซ้อนและรายละเอียดยิบย่อยมากมาย ทำให้ครอบครัวประสบปัญหากับการตัดสินใจที่ยากลำบาก ดังนั้น การเลือกศูนย์ดูแลผู้สูงอายุจึงกลายเป็นทางเลือกที่เหมาะสมกว่า ศูนย์ดูแลผู้สูงอายุมีข้อดีคือ ครอบครัวไม่จำเป็นต้องผ่านขั้นตอนการเลือกอุปกรณ์ ค่าจ้างคนดูแลผู้สูงอายุ หรือสัมภาษณ์เพื่อประเมินทักษะด้วยตัวเอง ศูนย์ดูแลผู้สูงอายุจะมีอุปกรณ์ที่ค่อนข้างครอบคลุมกว่า มีเจ้าหน้าที่และพยาบาลวิชาชีพช่วยดูแลเอาใจใส่ผู้สูงอายุได้อย่างเต็มที่ มีการจัดสรรมื้ออาหารครบถ้วน มีกิจกรรมต่างๆ ให้ผู้สูงอายุทำในยามว่าง และสามารถพบปะพูดคุยกับเจ้าหน้าที่หรือเพื่อนผู้สูงอายุไปด้วย นอกจากนี้ ยังมีบริการดูแลทำความสะอาดสถานที่ อุปกรณ์ ห้องพัก เตียง เสื้อผ้าให้ด้วย แน่นอนว่าสิ่งที่ดีที่สุดคือการได้อยู่กับคนที่รัก Saijai.co แนะนำว่าครอบครัวต้องมีการไปเยี่ยมผู้สูงอายุที่ศูนย์ดูแลอย่างสม่ำเสมอ เพื่อสร้างความสัมพันธ์และความสุขให้กับผู้สูงอายุด้วย
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการเลือกคนดูแลผู้สูงอายุที่บ้าน
หลายครอบครัวอาจจะยังมีคำถามเกี่ยวกับการจ้างคนดูแลผู้สูงอายุที่บ้าน หรือการหาบ้านพักผู้สูงอายุ เนื่องจากเป็นกระบวนการที่ซับซ้อนซึ่งต้องอาศัยการตัดสินใจร่วมกับปัจจัยหลายอย่าง รวมไปถึงการตัดสินใจจากคนในครอบครัวทุกท่าน Saijai จึงรวมคำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการเลือกจ้างคนดูแลผู้สูงอายุที่บ้านมาให้ลองอ่านกัน
- คนดูแลผู้สูงอายุรายเดือนกับรายวัน เลือกแบบไหนดี?
การจ้างคนดูแลผู้สูงอายุแบบรายเดือน จะเหมาะกับครอบครัวที่ไม่สามารถมาดูแลความเป็นอยู่ของผู้สูงอายุได้ทุกวัน หรือว่างแค่ไม่กี่วันต่อเดือน หากมีคนดูแลแบบระยะยาวเหมาจ่ายได้เลยจะเหมาะกว่า ส่วนการจ้างคนดูแลผู้สูงอายุแบบรายวันจะเหมาะกับครอบครัวที่พอมีเวลามาดูแลความเป็นอยู่ของผู้สูงอายุได้หลายวันต่อสัปดาห์ หรือไม่ว่างดูแลแค่บางช่วงเท่านั้น การจ้างแบบรายวันจะช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายกว่าในกรณีที่เราสามารถดูแลผู้สูงอายุด้วยตัวเองได้เป็นส่วนใหญ่
- เลือกใช้บริการผู้จัดหา (Agent) หรือหาคนดูแลผู้สูงอายุด้วยตัวเองดี?
จริงๆ แล้วการจัดหาว่าจ้างคนดูแลผู้สูงอายุด้วยตัวเองนั้นสามารถทำได้ แต่การใช้บริการผู้จัดหาหรือ Agent จะมีความรวดเร็วกว่า เพราะในมือของตัวแทนจัดหาจะมีเจ้าหน้าที่ที่มีประสบการณ์อยู่แล้ว จะช่วยให้เรามองหาคนที่เหมาะได้รวดเร็วขึ้น นอกจากนี้ ตัวแทนบางท่านอาจให้คำแนะนำที่ดี ช่วยพิจารณา หรือช่วยลดขั้นตอนอื่นๆ ที่ไม่จำเป็นออกไปด้วย แต่อย่างไรก็ตาม เลือกแนวทางที่คนในครอบครัวสะดวกสบายใจจะดีที่สุด
- สิ่งที่ต้องถามคนดูแลผู้สูงอายุตอนสัมภาษณ์
การสัมภาษณ์ผู้สมัครก่อนเริ่มงานจะเป็นวิธีที่ช่วยให้เราทราบถึงบุคลิกภาพของผู้สมัคร อาจจะเริ่มด้วยคำถาม เช่น เหตุผลที่ทำงานเป็นคนดูแลผู้สูงอายุ, วิธีการดูแลผู้สูงอายุประเภทต่างๆ, กิจกรรมที่จะจัดสรรให้ผู้สูงอายุ, ความสามารถในการสื่อสาร, ความสะดวกในการพาผู้สูงอายุไปสถานที่ต่างๆ, มีใบรับรองอาชีพหรือไม่, งานอดิเรก, การจัดการความเครียดหรือรับแรงกดดัน เป็นต้น
- เราจะรู้ได้ยังไงว่าคนดูแลเข้ากับผู้สูงอายุได้หรือไม่?
วิธีที่ง่ายที่สุดในการทราบคำตอบว่าผู้สมัครแต่ละท่านเข้ากับผู้สูงอายุได้หรือไม่ คือการสอบถามผู้สูงอายุโดยตรงจะเหมาะที่สุด เพราะคนที่จะอยู่กับท่านตลอดเวลาไม่ใช่ตัวเรา บางกรณีที่เรารู้สึกว่าเข้ากับผู้สมัครท่านหนึ่งได้ แต่ผู้สูงอายุชื่นชอบผู้สมัครอีกท่านหนึ่งมากกว่า แนะนำให้พูดคุยกันอย่างตรงไปตรงมา ประกอบกับการสังเกตผู้สูงอายุในช่วงทดลองงานร่วมด้วยว่ามีความสุขและสบายใจกับผู้สมัครหรือไม่
- บ้านพักผู้สูงอายุเหมาะกับใคร?
บ้านพักผู้สูงอายุจะเหมาะกับครอบครัวที่ไม่สามารถดูแลผู้สูงอายุได้ตลอดเวลาหรือครอบครัวที่มีผู้สูงอายุที่ต้องการการดูแลมากเป็นพิเศษ เช่น ผู้สูงอายุที่ป่วยเป็นโรคอัลไซเมอร์ ซึ่งต้องมีการดูแลทั้งทางสุขภาพกายและสุขภาพจิต