ปัจจุบัน สังคมมีจำนวนผู้สูงอายุมากขึ้น การทำประกันชีวิตคนแก่จึงกลายเป็นปัจจัยที่หลายครอบครัวให้ความสำคัญเป็นอย่างมาก เพื่อให้ผู้สูงอายุได้มีความเป็นอยู่ที่ดีและมีความสุขมากที่สุด ทั้งยังช่วยสร้างความมั่นคงให้กับครอบครัวและลูกหลานอีกด้วย แต่ทั้งนี้ ประกันชีวิตผู้สูงอายุนั้นต่างมีให้เลือกหลากหลายรูปแบบ ทั้งยังมีเงื่อนไขที่แตกต่างกัน หลายครอบครัวจึงอาจจะยังไม่สามารถตัดสินใจเลือกประกันชีวิตคนสูงอายุได้ในทันที ดังนั้น เรามาดูไปพร้อม ๆ กันในบทความนี้ได้เลย!

ประกันชีวิตผู้สูงอายุ คืออะไร?
ประกันชีวิตผู้สูงอายุ คือ กรมธรรม์อย่างหนึ่งที่ถูกออกแบบมาเพื่อผู้ที่มีอายุมากแล้ว (มักเริ่มต้นตั้งแต่อายุ 50 ปีขึ้นไป) โดยจะให้การคุ้มครองชีวิตในช่วงวัยเกษียณ มุ่งเน้นการลดภาระทางการเงินให้กับครอบครัวลูกหลานในกรณีที่ผู้ทำประกันเสียชีวิต (ขึ้นอยู่กับประเภทของประกันชีวิตผู้สูงอายุ) ซึ่งจะครอบคลุมค่าใช้จ่าย เช่น ค่าพิธีฌาปนกิจ หนี้สิน หรือการดูแลอื่น ๆ ที่อยู่ในความรับผิดชอบของครอบครัว
โดยทั่วไปแล้ว ประกันชีวิตคนแก่จะมีความแตกต่างจากประกันชีวิตแบบทั่วไป โดยขั้นตอนการสมัครทำประกันนั้นจะค่อนข้างง่ายกว่ามาก ส่วนใหญ่มักไม่ต้องตรวจสุขภาพเนื่องจากเป็นประกันชีวิต (อาจทำเพียงแบบสอบถามสุขภาพเท่านั้น) ให้ความคุ้มครองที่เหมาะสมกับผู้สูงอายุ จำนวนเงินมักไม่สูง มีค่าเบี้ยประกันคงที่ โดยถูกกำหนดตามอายุผู้สมัครและไม่มีการเปลี่ยนแปลงตลอดอายุกรมธรรม์ แต่อย่างไรก็ตาม ควรสอบถามและตรวจสอบรายละเอียดให้แน่ชัด เพราะประกันชีวิตคนแก่แต่ละที่อาจมีความแตกต่างกัน
ประกันชีวิตผู้สูงอายุ ทำได้ตั้งแต่อายุเท่าไหร่?
การทำประกันชีวิตคนสูงอายุ มักจะกำหนดช่วงอายุแตกต่างจากกลุ่มอื่น ๆ โดยส่วนใหญ่แล้วช่วงอายุที่สามารถทำประกันชีวิตคนแก่ได้จะอยู่ระหว่าง 50-70 ปี ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของบริษัทประกันนั้น ๆ ซึ่งเบี้ยประกันจะมีจำนวนสูงขึ้นตามอายุที่เพิ่มเรื่อย ๆ เนื่องจากมีความเสี่ยงด้านสุขภาพมากขึ้น
นอกจากนี้ ประกันชีวิตผู้สูงอายุอาจมีข้อจำกัดเรื่องความคุ้มครองโรคบางประเภทหรือมีระยะเวลาคุ้มครองที่สั้นลง ขึ้นอยู่กับประเภทของโรคที่ผู้สูงอายุมีอยู่
อย่างไรก็ตาม คำแนะนำสำหรับครอบครัวที่มีผู้สูงอายุหรือผู้สูงอายุที่สนใจทำประกันคือ ควรเริ่มทำประกันชีวิตโดยเร็วที่สุด เพื่อให้ได้การคุ้มครองที่เหมาะสมและตอบโจทย์ความต้องการของเรา
ทำไมผู้สูงอายุถึงควรทำประกันชีวิต คนแก่จำเป็นต้องทำจริงไหม?
การวางแผนทางการเงินสำหรับผู้สูงอายุนั้นเป็นเรื่องสำคัญที่ครอบครัวไม่ควรมองข้ามอย่างมาก ซึ่งการทำประกันชีวิตผู้สูงอายุไม่ใช่แค่การบริหารอย่างรอบคอบเท่านั้น แต่มันยังเป็นเครื่องมือในการสร้างหลักประกันและความมั่นคงทางการเงินของตัวผู้สูงอายุเอง โดยเฉพาะเมื่อท่านเข้าสู่ช่วงวัยที่การหารายได้เริ่มมีข้อจำกัด ในขณะที่ค่าใช้จ่ายทางการแพทย์กลับสูงขึ้น จึงเป็นเหตุผลให้ประกันชีวิตคนแก่มีความสำคัญดังนี้
- ช่วยบรรเทาภาระค่าใช้จ่ายทางการแพทย์หรือค่ารักษาพยาบาลที่มักมีเพดานสูงขึ้นเมื่ออายุเพิ่มขึ้น
- ช่วยสร้างหลักประกันให้กับลูกหลาน ไม่เป็นภาระแก่สมาชิกในครอบครัว โดยเฉพาะกรณีที่เกิดเหตุไม่คาดฝันขึ้น
- ช่วยให้ความคุ้มครองชีวิตและสุขภาพ ทำให้ผู้สูงอายุใช้ชีวิตได้อย่างมั่นใจและปลอดภัยยิ่งขึ้น
- ช่วยให้การวางแผนมรดกและการจัดการทรัพย์สินต่าง ๆ มีความเป็นระบบมากขึ้น
- บางแผนอาจมีสิทธิประโยชน์เพิ่มเติม เช่น ประกันสุขภาพ, การช่วยเหลือด้านการดูแลรักษาต่าง ๆ เป็นต้น ทำให้ผู้สูงอายุมีความสบายใจในการใช้ชีวิต
ประกันชีวิตผู้สูงอายุ มีกี่ประเภท?
ประกันชีวิตผู้สูงอายุนั้นมีด้วยกันหลากหลายประเภท สามารถแบ่งได้ตามลักษณะการจ่ายเงินคุ้มครองและระยะเวลาการคุ้มครอง โดยแต่ละประเภทจะมีจุดเด่นและข้อจำกัดที่แตกต่างกันไป เพื่อให้ผู้สูงอายุและครอบครัวสามารถเลือกแผนประกันที่ตรงความต้องการที่สุดได้ เรามาดูกันเลยว่าประกันชีวิตคนแก่ มีอะไรบ้าง
ประกันชีวิตแบบตลอดชีพ (Whole Life Insurance)
ประกันชีวิตผู้สูงอายุแบบตลอดชีพ เป็นแผนที่ให้ความคุ้มครองไปตลอดชีวิตของผู้ทำประกัน ตราบใดที่ยังจ่ายเบี้ยประกันครบถ้วน แผนนี้เหมาะสำหรับผู้สูงอายุที่ต้องการความมั่นใจว่าจะมีเงินคุ้มครองให้กับครอบครัว ไม่ว่าจะเสียชีวิตเมื่อไหร่ก็ตาม นอกจากนี้ บางแผนประกันชีวิตคนสูงอายุตลอดชีพยังมีส่วนของการกู้เงินจากกรมธรรม์ประกันชีวิตตาม “มูลค่าเวนคืนเงินสด” ที่เราสามารถขอคืนได้ก่อนกำหนดครบวันจ่ายเงินคืน (แนะนำให้ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมก่อนตัดสินใจ) ในกรณีที่มีปัญหาทางการเงินฉุกเฉินด้วย
ข้อดีประกันชีวิตผู้สูงอายุแบบตลอดชีพ
- ให้การคุ้มครองตลอดชีวิต หรือตามอายุที่บริษัทกำหนด (ส่วนใหญ่มักอยู่ที่ 90-99 ปี)
- บางแผนสามารถใช้การกู้เงินจากกรมธรรม์ประกันชีวิตได้
ข้อเสียประกันชีวิตผู้สูงอายุแบบตลอดชีพ
- ค่าเบี้ยประกันค่อนข้างสูง
- ไม่เหมาะกับผู้สูงอายุหรือครอบครัวที่มีงบประมาณจำกัด
ประกันชีวิตแบบชั่วระยะเวลา (Term Life Insurance)
ประกันชีวิตผู้สูงอายุแบบชั่วระยะเวลา คือ ประกันชีวิตที่ให้ความคุ้มครองเฉพาะในช่วงเวลาที่กำหนดเอาไว้เท่านั้น บางแห่งอาจให้ความคุ้มครอง 10 ปี, 20 ปี หรืออาจถึงอายุ 80 ปี ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขที่ทางบริษัทประกันตั้งเอาไว้ โดยแผนประกันชีวิตแบบชั่วระยะเวลานี้จะเหมาะกับผู้สูงอายุที่ต้องการการคุ้มครองในช่วงเวลาสั้น ๆ ด้วยเหตุผลเช่น เพื่อเป็นหลักประกันเงินกู้หรือเพื่อดูแลครอบครัวในช่วงที่ยังมีภาระทางการเงิน เพราะเบี้ยประกันมักจะถูกกว่าแบบตลอดชีพ แต่เมื่อหมดสัญญาแล้วอาจจะไม่ได้รับความคุ้มครองใด ๆ และหากต้องการต่ออายุประกัน อาจต้องจ่ายเบี้ยประกันที่สูงขึ้นเพราะอายุเพิ่มมากขึ้นด้วย
ข้อดีประกันชีวิตผู้สูงอายุแบบชั่วระยะเวลา
- ค่าเบี้ยประกันถูก สามารถจัดสรรค่าใช้จ่ายได้ง่ายขึ้น
- เหมาะกับการคุ้มครองระยะสั้น
ข้อเสียประกันชีวิตผู้สูงอายุแบบชั่วระยะเวลา
- ไม่มีการคุ้มครองเมื่อหมดสัญญาแล้ว
- เบี้ยประกันจะราคาสูงขึ้นเมื่อต่ออายุสัญญา
ประกันชีวิตแบบสะสมทรัพย์ (Endowment Insurance)
ประกันชีวิตผู้สูงอายุแบบสะสมทรัพย์นั้นเป็นประเภทที่ได้รับความนิยมอย่างมากในปัจจุบัน โดยเป็นการผสมผสานระหว่างการคุ้มครองและการสะสมทรัพย์เป็นเงินออม โดยผู้ทำประกันจะได้รับเงินก้อนคืนเมื่อครบกำหนดสัญญา เหมาะกับผู้สูงอายุที่ต้องการทั้งการคุ้มครองและเงินเก็บออมสำหรับไว้ใช้ในอนาคต ยกตัวอย่างเช่น เพื่อเป็นทุนการศึกษาของลูกหลาน เงินสำรองยามเกษียณอายุ หรืออื่น ๆ แต่ทั้งนี้ ค่าเบี้ยประกันชีวิตผู้สูงอายุแบบสะสมทรัพย์นั้นค่อนข้างสูง และผลตอบแทนจากการสะสมทรัพย์อาจไม่สูงมากนักเมื่อเทียบกับการลงทุนด้วยตัวเองในรูปแบบอื่น
ข้อดีประกันชีวิตผู้สูงอายุแบบสะสมทรัพย์
- ได้รับเงินก้อนเมื่อครบสัญญา สามารถนำไปใช้จ่ายยามต้องการได้
- ได้ทั้งการคุ้มครองชีวิตและการสะสมทรัพย์เป็นเงินเก็บออม
ข้อเสียประกันชีวิตผู้สูงอายุแบบสะสมทรัพย์
- ค่าเบี้ยประกันสูง
- ผลตอบแทนที่ได้จากการออมไม่สูงนัก
ประกันชีวิตคุ้มครองโรคร้ายแรง (Critical Illness Insurance)
ประกันชีวิตผู้สูงอายุแบบคุ้มครองโรคร้ายแรงจะให้ความคุ้มครองผู้สูงอายุเฉพาะในกรณีป่วยเป็นโรคร้ายแรง โดยจะต้องเป็นโรคที่ทางบริษัทประกันกำหนดเอาไว้ในกรมธรรม์เท่านั้น ยกตัวอย่างเช่น โรคมะเร็งในผู้สูงอายุ, โรคหัวใจ หรืออัมพาตครึ่งซีก เหมาะกับผู้สูงอายุที่ต้องการการคุ้มครองด้านสุขภาพและอยากลดค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาล ซึ่งหากครอบครัวหรือผู้สูงอายุสนใจทำประกันชีวิตประเภทนี้ จะต้องศึกษาเงื่อนไขและข้อยกเว้นในการจ่ายเงินคุ้มครองอย่างละเอียดรอบคอบ เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาในภายหลัง
ข้อดีประกันชีวิตผู้สูงอายุแบบคุ้มครองโรคร้ายแรง
- ช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลเมื่อเป็นโรคร้ายแรง
- คุ้มครองโรคร้ายแรง ช่วยลดความกังวลเรื่องสุขภาพ
ข้อเสียประกันชีวิตผู้สูงอายุแบบคุ้มครองโรคร้ายแรง
- ค่าเบี้ยประกันสูง
- มีเงื่อนไขและข้อยกเว้นเยอะมาก (ต้องตรวจสอบให้ละเอียดก่อนตัดสินใจ)
ประกันชีวิตแบบบำนาญ (Annuity Insurance)
ประกันชีวิตผู้สูงอายุแบบบำนาญ คือแผนประกันที่ออกแบบมาเพื่อให้ผู้สูงอายุหรือผู้ที่อยู่ในวัยใกล้เกษียณมีรายได้ประจำหลังเกษียณ โดยผู้ทำประกันจะจ่ายเบี้ยประกันในช่วงเวลาที่กำหนด (อาจเป็นแบบจ่ายครั้งเดียวหรือจ่ายเป็นงวดก็ได้) จากนั้นบริษัทประกันจะจ่ายเงินบำนาญให้แบบรายเดือน รายปี หรือตามระยะเวลาที่ตกลงกันไว้ เหมาะกับผู้สูงอายุที่ต้องการสร้างความมั่นคงทางการเงินหลังเกษียณ ไม่ต้องการพึ่งพารายได้จากแหล่งอื่น ๆ เพียงอย่างเดียว
ข้อดีประกันชีวิตผู้สูงอายุแบบบำนาญ
- ช่วยให้มีรายได้ประจำหลังเกษียณ เปลี่ยนเป็นเงินออมหรือเงินลงทุนได้
- ช่วยในการวางแผนการเงินระยะยาว
- ความเสี่ยงในการลงทุนต่ำกว่า เมื่อเทียบกับการลงทุนแบบอื่น ๆ อย่างหุ้นหรือกองทุน
- มีความยืดหยุ่นสูง สามารถเลือกรูปแบบการจ่ายเบี้ยและการรับเงินบำนาญได้ตามต้องการ
ข้อเสียประกันชีวิตผู้สูงอายุแบบบำนาญ
- เงินลงทุนเริ่มต้นค่อนข้างสูง โดยเฉพาะแผนที่จ่ายเบี้ยครั้งเดียว อาจต้องพึ่งเงินก้อน
- ผลตอบแทนไม่ได้สูงมากนัก เมื่อเทียบกับผลตอบแทนจากหุ้นหรือกองทุน
- ไม่เหมาะกับคนที่ต้องการเงินก้อน เพราะเป็นการแบ่งจ่ายรายเดือน รายปี หรือระยะที่กำหนด

เลือกประกันชีวิตผู้สูงอายุ อย่างไรดี?
การเลือกประกันชีวิตผู้สูงอายุนั้นต้องผ่านการพิจารณาหลายปัจจัย ตั้งแต่อายุ สุขภาพโดยรวม งบประมาณที่ชำระได้ ไปจนถึงเป้าหมายทางการเงินของผู้สูงอายุหรือครอบครัว ดังนั้น เราจึงควรศึกษารายละเอียดของแต่ละแผนให้ดีก่อนตัดสินใจ และอาจต้องปรึกษาผู้เชี่ยวชาญทางการเงินหรือตัวแทนประกันชีวิตที่เชื่อถือได้ เพื่อเลือกแผนที่เหมาะกับความต้องการของเรามากที่สุด เรามาดูกันเลยว่ามีวิธีเลือกประกันชีวิตผู้สูงอายุเบื้องต้นอย่างไรบ้าง
ประเมินความต้องการและเป้าหมายในการทำประกันชีวิตผู้สูงอายุ
ก่อนเลือกประกันชีวิตคนสูงอายุ สิ่งแรกที่ต้องทำคือการประเมินความต้องการและเป้าหมายของผู้สูงอายุและครอบครัว เราควรถามตัวเองก่อนเป็นอย่างแรกว่าต้องการความคุ้มครองอะไรบ้าง เช่น
- ค่ารักษาพยาบาล หากผู้สูงอายุมีโรคประจำตัวหรือมีความเสี่ยงด้านสุขภาพ อาจต้องการประกันที่ครอบคลุมค่ารักษาพยาบาลเข้าไปด้วย
- มรดกให้ลูกหลาน หากต้องการเงินก้อนเหลือไว้ให้ลูกหลานหรือครอบครัวหลังจากไป
- รายได้ประจำหลังเกษียณ หากต้องการรายได้เพิ่มเติมหลังจากเกษียณงาน
- ภาระค่าใช้จ่ายอื่น ๆ เช่น ค่าใช้จ่ายในการทำพิธีฌาปนกิจ หนี้สิน เป็นต้น
นอกจากความคุ้มครองที่ครอบคลุมแล้ว ก็ควรกำหนดงบประมาณที่เราสามารถชำระเบี้ยประกันได้แบบไม่กระทบกับค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ในชีวิตประจำวันด้วย
ศึกษาประเภทของประกันชีวิตผู้สูงอายุอย่างละเอียด
ประกันชีวิตสำหรับผู้สูงอายุมีหลายประเภท แต่ละประเภทมีจุดเด่นและข้อจำกัดที่แตกต่างกันไป การศึกษารายละเอียดของแต่ละประเภทจะช่วยให้ตัดสินใจได้ง่ายขึ้น ไม่ว่าจะเป็นลักษณะเงื่อนไข ข้อยกเว้นต่าง ๆ ไปจนถึงข้อดีและข้อเสียที่เราสามารถรับได้
เปรียบเทียบแผนประกันจากหลาย ๆ บริษัท
เมื่อทราบประเภทประกันชีวิตผู้สูงอายุที่ต้องการแล้ว ขั้นตอนต่อไปคือการเปรียบเทียบแผนประกันจากหลายบริษัท เพื่อหาผลประโยชน์และเงื่อนไขที่ดีที่สุดกับเรา โดยควรพิจารณาปัจจัยต่อไปนี้
- เบี้ยประกัน เปรียบเทียบเบี้ยประกันจากหลายบริษัท และเลือกแผนที่เหมาะสมกับงบประมาณของเราหรือครอบครัว
- ความคุ้มครอง ตรวจสอบด้วยว่าครอบคลุมอะไรที่เราตั้งเป้าหมายไว้บ้าง เช่น ค่ารักษาพยาบาล ค่าใช้จ่ายในการทำพิธีฌาปนกิจ เป็นต้น
- สิทธิประโยชน์อื่น ๆ เพิ่มเติม ยกตัวอย่างเช่น ประกันสุขภาพ ประกันภัยอุบัติเหตุ หรือการให้ความช่วยเหลือด้านการดูแลทางสุขภาพต่าง ๆ
- ความน่าเชื่อถือของบริษัทประกัน เลือกที่ที่มีความมั่นคงทางการเงิน มีชื่อเสียง มีรีวิวจากผู้ที่เคยใช้บริการ เชื่อถือได้
ตรวจสอบเงื่อนไขและข้อยกเว้นของแผนประกันเสมอ
ก่อนตัดสินใจทำประกันชีวิตผู้สูงอายุหรือประกันอื่น ๆ เราควรจะอ่านทำความเข้าใจกับรายละเอียดของกรมธรรม์และทำการตัดสินใจอย่างรอบคอบ โดยเฉพาะเงื่อนไขและข้อยกเว้นต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นเงื่อนไขการจ่ายเงินคุ้มครอง ระยะเวลารอคอยเงินประกัน ไปจนถึงข้อยกเว้นสิ่งที่กรมธรรม์จะไม่ให้การคุ้มครอง เช่น เสียชีวิตจากโรคที่มีมาก่อนจะทำประกันชีวิตคนแก่ เป็นต้น
ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญหรือตัวแทนประกัน
อย่างที่ทราบกันดีว่า การเลือกประกันชีวิตเป็นเรื่องที่ซับซ้อนและมีรายละเอียดมากมายที่ต้องทำความเข้าใจ การปรึกษาผู้เชี่ยวชาญทางการเงินหรือตัวแทนประกันชีวิตผู้สูงอายุที่เชื่อถือได้จะช่วยให้เราเข้าใจแผนประกันได้ดีขึ้น และได้รับคำแนะนำที่เหมาะสมกับสถานะทางการเงินและความต้องการของเราด้วย
สรุปบทความ
การเลือกประกันชีวิตผู้สูงอายุนั้นเป็นเรื่องที่สมาชิกในครอบครัวต้องใส่ใจอย่างมาก เพราะนอกจากจะช่วยสร้างความมั่นคงทางการเงินให้กับครอบครัวแล้ว ยังช่วยลดความกังวลให้กับทั้งตัวผู้สูงอายุและสมาชิกในบ้านได้ด้วย ทั้งนี้ หากสนใจทำประกันชีวิต ก็ต้องไม่ลืมศึกษาข้อมูลและปรึกษาผู้เชี่ยวชาญเพื่อรับคำแนะนำในการเลือกแผนประกันที่ตอบโจทย์เรามากที่สุดด้วย
สำหรับครอบครัวที่ต้องการการดูแลสุขภาพผู้สูงอายุอย่างครอบคลุมและเหมาะสม SaiJai.co พร้อมใส่ใจให้คำปรึกษา คำแนะนำ และคัดเลือกบริการหลากหลายสำหรับผู้สูงอายุหรือผู้ป่วย ไม่ว่าจะเป็นศูนย์พักฟื้นผู้สูงอายุ ศูนย์ดูแลผู้สูงอายุ บ้านพักคนชรา ไปจนถึงบริการดูแลผู้สูงอายุที่บ้าน
เริ่มต้นดูแลสุขภาพผู้สูงอายุในครอบครัวของคุณตั้งแต่วันนี้!
ติดต่อ SaiJai.co เพื่อปรึกษาและรับคำแนะนำในการดูแลผู้สูงอายุอย่างมืออาชีพ:
📞 โทร: 063-216-9343
✉️ อีเมล: hi@saijai.co
💬 Line: @saijaiofficial
🌐 เว็บไซต์: SaiJai.co
เพราะทุกช่วงเวลาของท่านมีค่า ให้ SaiJai.co ดูแลคนสำคัญของคุณ!