‘Active Living – คอนโดผู้สูงอายุ’ ทางเลือกใหม่ของชีวิตวัยเกษียณ

ในยุคที่สังคมไทยก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุมากขึ้นเรื่อย ๆ ‘คอนโดผู้สูงอายุ’ กลายเป็นทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้สูงอายุหรือกลุ่มคนวัยเกษียณที่ต้องการใช้ชีวิตอย่างเต็มที่และมีคุณภาพ ซึ่งการออกแบบคอนโดสำหรับผู้สูงอายุในปัจจุบันนั้นไม่เพียงตอบโจทย์การอยู่อาศัยอย่างปลอดภัยและสะดวกสบาย แต่ยังส่งเสริมไลฟ์สไตล์แบบ Active Living ที่ช่วยให้ผู้สูงวัยได้ใช้ชีวิตอย่างมีความสุข มีปฏิสัมพันธ์ และมีสุขภาพที่ดีไปพร้อม ๆ กัน แต่การเลือกคอนโดคนชราจะต้องเลือกอย่างไร? คอนโดผู้สูงอายุแบบ Active Living เป็นแบบไหน? มาติดตามกันในบทความนี้ได้เลย!

รู้ก่อน! Active Living สำคัญอย่างไรกับวัยเกษียณ

Active Living คือ แนวคิดการใช้ชีวิตแบบกระฉับกระเฉง เป็นกุญแจสำคัญสู่คุณภาพชีวิตที่ดีสำหรับวัยเกษียณหรือผู้สูงอายุ (เรียกอีกอย่างหนึ่งว่า Active Lifestyle) โดยการใช้ชีวิตแบบ Active Living จะประกอบด้วยการมีกิจกรรมที่หลากหลาย ซึ่งจะช่วยส่งเสริมสุขภาพร่างกายและสุขภาพจิตไปด้วยกัน นอกจากนี้ก็ยังช่วยลดความเสี่ยงของโรคต่าง ๆ ที่มักพบในผู้สูงอายุ เช่น โรคอัลไซเมอร์ หรือโรคเกี่ยวกับหัวใจและหลอดเลือด เป็นต้น

ตัวอย่างกิจกรรม Active Living สำหรับผู้สูงอายุ

การใช้ชีวิตแบบ Active Living นั้นไม่จำเป็นต้องประกอบด้วยกิจกรรมหนัก ซับซ้อน หรือจำเป็นต้องออกกำลังกายเพียงอย่างเดียว แต่ควรเป็นสิ่งที่ผู้สูงอายุชื่นชอบ สนใจเป็นพิเศษ และควรเป็นกิจกรรมที่ผู้สูงอายุสามารถทำได้อย่างต่อเนื่องสม่ำเสมอ โดยไม่ก่อให้เกิดความเครียดหรือความกดดัน รวมไปถึงควรประกอบด้วยกิจกรรมที่ช่วยให้ตัวผู้สูงอายุสามารถสร้างปฏิสัมพันธ์กับผู้อื่นได้ด้วย ซึ่งคอนโดผู้สูงอายุที่ออกแบบมาเพื่อการใช้ชีวิตแบบ Active Living จึงมักมีกิจกรรมที่หลากหลายให้ผู้อยู่อาศัยได้เลือกทำ ยกตัวอย่างเช่น

• การออกกำลังกายแบบเบาๆ เช่น โยคะ รำไทเก๊ก การวิ่งหรือเดินออกกำลังกาย
• การทำสวน ปลูกต้นไม้ ปลูกดอกไม้ การเพาะชำ
• การเรียนรู้ทักษะใหม่ๆ เช่น การเรียนภาษา เรียนใช้คอมพิวเตอร์
• การทำงานอดิเรก เช่น วาดรูป ทำอาหาร หรืองานฝีมือประเภทต่าง ๆ
• การเข้าร่วมกิจกรรมทางสังคม เช่น การเข้าชมรมหรือการเป็นอาสาสมัคร
• การท่องเที่ยวแบบกลุ่มในสถานที่ใหม่ๆ เช่น ออกทริป / ทัวร์สำหรับลูกบ้าน
• การฝึกสมองด้วยกิจกรรมส่วนรวม เช่น บอร์ดเกมปริศนา โซนเล่นดนตรี 

คอนโดผู้สูงอายุ VS คอนโดทั่วไป ต่างกันยังไง?

คอนโดผู้สูงอายุถูกออกแบบมาโดยเฉพาะเพื่อตอบสนองความต้องการของกลุ่มผู้สูงอายุ ทั้งในด้านความปลอดภัยและการส่งเสริมคุณภาพชีวิตให้มีความเป็นอยู่ที่ดี โดยคอนโดคนชราจะมีสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ เช่น ทางลาดสำหรับเข็นรถเข็น, ราวจับตามทางเดิน, เฟอร์นิเจอร์แบบขอบมน, ไฟตามทางเดินแบบเปิด-ปิดอัตโนมัติ, ระบบสัญญาณแจ้งเตือนฉุกเฉินภายในแต่ละห้อง หรือจะเป็นห้องน้ำแบบปลอดภัย ถูกติดตั้งเป็นมาตรฐานของการทำคอนโดผู้สูงอายุอยู่แล้ว นอกจากนี้ ก็ยังมีกิจกรรมที่สนับสนุนการใช้ชีวิตแบบ Active Living ที่หลากหลาย รวมไปถึงบริการทางการแพทย์และการดูแลสุขภาพที่พร้อมตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อให้สามารถรับมือการสถานการณ์อันไม่คาดคิด

ส่วนคอนโดทั่วไป จะมุ่งเน้นไปที่ความสะดวกสบาย ทันสมัย และมีความมัลติฟังก์ชัน ซึ่งจะต้องตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตของกลุ่มคนวัยทำงาน วัยรุ่น หรือกลุ่มที่อยู่กันแบบครอบครัว โดยอาจมีสิ่งอำนวยความสะดวก เช่น สระว่ายน้ำ ฟิตเนส หรือพื้นที่ส่วนกลางอื่น ๆ เพียงแต่ไม่ได้ออกแบบมาเพื่อผู้สูงอายุโดยเฉพาะ การบริการและกิจกรรมส่วนใหญ่เน้นไปที่ไลฟ์สไตล์ของคนวัยหนุ่มสาว เช่น การมี Co-working space และมักจะไม่มีบริการทางการแพทย์หรือการดูแลพิเศษสำหรับผู้สูงอายุแต่อย่างใด

เปรียบเทียบคอนโดผู้สูงอายุกับคอนโดทั่วไป สรุปต่างกันยังไงบ้าง?

โดยทั่วไปแล้ว คอนโดผู้สูงอายุและคอนโดทั่วไปนั้นมีความแตกต่างกันค่อนข้างสูง ที่เห็นได้อย่างชัดเจนคือ รูปแบบของความเป็นอยู่และสังคมภายในชุมชนของคอนโด แต่นอกจากนี้ ก็ยังมีรายละเอียดอื่นๆ ที่ทำให้คอนโดผู้สูงอายุมีความแตกต่างกับคอนโดของกลุ่มคนทั่วไป สรุปได้ดังนี้

คอนโดทั่วไป

• เหมาะสำหรับทุกวัย
• การออกแบบเน้นความทันสมัย ครบครัน
• สิ่งอำนวยความสะดวกทั่วไป เช่น สระว่ายน้ำ ฟิตเนส หรือสวนสำหรับพักผ่อนหย่อนใจ
• ส่วนใหญ่จะไม่มีบริการทางการแพทย์
• ไม่เน้นการทำกิจกรรมร่วมกัน
• มักจะไม่มีการดูแลพิเศษเฉพาะกลุ่ม

• ไม่เน้นการสร้างสังคม มีคนหลากหลายวัย

• ราคาคอนโดขึ้นอยู่กับทำเลที่ตั้ง

คอนโดผู้สูงอายุ 

• เหมาะสำหรับผู้สูงอายุ 55+ ปีขึ้นไป
• ออกแบบโดยเน้นความปลอดภัยในการใช้ชีวิตเป็นหลัก
• มีสิ่งอำนวยความสะดวกที่หลากหลายและเหมาะสำหรับผู้สูงอายุมากกว่า เช่น ทางลาดรถเข็น ราวจับตามจุดต่างๆ ระบบสัญญาณฉุกเฉินภายในห้อง ฯลฯ

• มีบริการทางการแพทย์ที่พร้อมมากกว่า บางที่อาจจะให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง

• มีกิจกรรม Active Living เพื่อพัฒนาสุขภาพโดยรวม

• มีบริการดูแลผู้สูงอายุเฉพาะทาง

• เน้นสร้างปฏิสัมพันธ์ในสังคมสำหรับผู้สูงอายุ

• มักมีราคาสูงกว่าปกติเพราะมีบริการที่หลากหลายกว่า

อย่างไรก็ตาม รายละเอียดของการออกแบบคอนโดผู้สูงอายุนั้นจะแตกต่างกันไปอย่างมาก ขึ้นอยู่กับจุดประสงค์ของโครงการคอนโดแต่ละที่ว่าออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์อะไรบ้าง ข้อมูลข้างต้นจึงเป็นเพียงการเปรียบเทียบแบบภาพรวมเท่านั้น หากต้องการหาคอนโดคนชราแบบเจาะจงมากกว่านี้ สามารถเข้าไปที่ Saijai.co เพื่อหาคอนโดผู้สูงอายุที่มีฟังก์ชันโดนใจวัยเกษียณได้เลย

ส่องเหตุผล! ทำไมคอนโดแบบ Active Living เป็นสวรรค์ของคนวัยเก๋า?

คอนโดผู้สูงอายุที่เน้น Active Living กำลังเป็นที่นิยมมากขึ้นในหมู่ผู้สูงวัยที่ต้องการใช้ชีวิตหลังเกษียณอย่างมีคุณภาพ เพราะคอนโดคนชราจะเต็มไปด้วยบริการกิจกรรมมากมายเพื่อพัฒนาร่างกาย จิตใจ และการใช้ชีวิตประจำวันของผู้สูงอายุให้ดียิ่งขึ้น เรามาดูกันว่าทำไมคอนโดผู้สูงอายุแบบ Active Living ถึงเป็นสวรรค์ของคนวัยเก๋า!

• กิจกรรมที่หลากหลาย ช่วยให้ผู้สูงอายุไม่รู้สึกเบื่อหน่าย  

คอนโดผู้สูงอายุแบบ Active Living มักจัดกิจกรรมที่หลากหลายเพื่อตอบสนองความสนใจของลูกบ้านหรือผู้อยู่อาศัย ไม่ว่าจะเป็นคลาสออกกำลังกาย เช่น โยคะหรือการเต้น กิจกรรมงานฝีมือ การเรียนภาษา การเล่นบอร์ดเกม หรือกิจกรรมอื่นๆ ที่เหมาะกับผู้สูงอายุ ซึ่งความหลากหลายนี้อาจจะช่วยให้ผู้สูงอายุได้ค้นพบงานอดิเรกใหม่ๆ ได้โอกาสในการพัฒนาทักษะ และรักษาความกระฉับกระเฉงในชีวิต ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญในการชะลอความเสื่อมของทั้งทางร่างกายและสมองด้วย

• สิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ปลอดภัยต่อการใช้ชีวิต  

อย่างที่ได้กล่าวไปว่าคอนโดผู้สูงอายุนั้นจะถูกออกแบบมาเพื่อให้สามารถใช้ชีวิตประจำวันได้อย่างปลอดภัย โดยจะคำนึงถึงความต้องการของผู้สูงอายุโดยเฉพาะ เนื่องจากร่างกายของพวกท่านจะมีความแข็งแรงน้อยกว่าคนหนุ่มสาว และเมื่อเกิดอุบัติเหตุอาจจะทำให้เกิดผลรุนแรงได้ สำหรับคอนโดคนชราจะมีการติดตั้งอุปกรณ์ต่างๆ เพื่อสนับสนุนการเคลื่อนไหว การทำกิจกรรม หรือความเป็นอยู่ของผู้สูงอายุให้สะดวกและปลอดภัย ลดความกังวลของทั้งผู้อยู่อาศัยและครอบครัวด้วย

• เพิ่มโอกาสในการมีปฏิสัมพันธ์กับคนรอบข้าง  

คอนโดผู้สูงอายุส่วนใหญ่จะมีการกำหนดอายุขั้นต่ำของผู้อยู่อาศัย ตั้งแต่อายุ 55, 60 หรือ 65 ปีขึ้นไป ซึ่งจะช่วยสร้างโอกาสในการพบปะคนอื่นๆ ที่อยู่ในช่วงวัยเดียวกัน ซึ่งจะเป็นกลุ่มที่มีประสบการณ์ชีวิตคล้ายคลึงกัน ทำให้ง่ายต่อการสร้างมิตรภาพใหม่ๆ สามารถทำความเข้าใจและแบ่งปันความสนใจได้สะดวกสบายโดยไม่ต้องปรับตัวเข้ากับช่องว่างระหว่างอายุ (Age Gap) มากนัก จึงช่วยลดความรู้สึกเหงา เปล่าเปลี่ยว และเสริมสร้างสุขภาพจิตที่ดียิ่งขึ้น ทำให้ร่างกายรู้สึกกระฉับกระเฉง สดชื่น เพราะไม่ต้องเครียดกับการอยู่คนเดียว

• เสริมสร้างสุขภาพทางกายอย่างเต็มที่มากขึ้น  

การอยู่ภายในคอนโดผู้สูงอายุแบบ Active Living จะมีกิจกรรมที่หลากหลายอย่างการออกกำลังกายและกิจกรรมฝึกสมอง ดังนั้น จึงช่วยเสริมสร้างสุขภาพกายของผู้สูงอายุหลายอย่าง โดยเฉพาะการออกกำลังกายซึ่งจะช่วยป้องกันการเกิดโรคที่พบได้บ่อยในผู้สูงอายุ เช่น โรคหัวใจและหลอดเลือด โรคเกี่ยวกับการเสื่อมของสมอง โรคทางข้อเข่า หรือโรคเกี่ยวกับกระดูก เป็นต้น จึงช่วยให้อายุขัยยืนยาวและเคลื่อนไหวด้วยตัวเองได้อย่างเต็มที่มากขึ้น

• ได้เข้าถึงบริการทางการแพทย์อย่างใกล้ชิด  

คอนโดผู้สูงอายุมักมีบริการทางการแพทย์ที่ครอบคลุมหลากหลายกว่าคอนโดทั่วๆ ไป ส่วนใหญ่จะมีเจ้าหน้าที่พยาบาลประจำการตลอด 24 ชั่วโมง และบางแห่งอาจมีแพทย์มาตรวจสุขภาพของผู้อยู่อาศัยเป็นประจำ นอกจากนี้ บางแห่งก็อาจจะยังมีโปรแกรมส่งเสริมสุขภาพ เช่น การตรวจสุขภาพประจำปี การให้คำปรึกษาด้านโภชนาการ หรือการจัดกิจกรรมบำบัดความเครียด (ขึ้นอยู่กับนโยบายของโครงการแต่ละแห่ง) ทำให้ผู้อยู่อาศัยได้รับการดูแลสุขภาพอย่างครบวงจรและช่วยให้สามารถรับมือกับสถานการณ์อันไม่คาดคิดต่างๆ ได้อย่างทันท่วงทีด้วย

• มีอิสระในการใช้ชีวิตวัยเกษียณอย่างเต็มที่  

แม้การใช้ชีวิตในคอนโดผู้สูงอายุจะอยู่ในสภาพแวดล้อมที่มีการดูแลอย่างใกล้ชิดเป็นส่วนใหญ่ แต่ผู้สูงอายุยังคงมีอิสระในการใช้ชีวิตตามที่ต้องการ สามารถเลือกทำกิจกรรมหรือออกไปนอกคอนโดได้ตามใจชอบ แต่ขณะเดียวกัน ก็มีความอุ่นใจว่าจะได้รับความช่วยเหลือทันทีเมื่อต้องการ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการทำความสะอาดห้อง การซ่อมแซมอุปกรณ์ หรือการช่วยเหลือในกรณีฉุกเฉินทั้งแบบทั่วไปและทางการแพทย์ ซึ่งจะทำให้ผู้สูงอายุรู้สึกปลอดภัยและมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น

เลือกคอนโดผู้สูงอายุอย่างไร? ให้เหมาะกับไลฟ์สไตล์วัยเกษียณ

การเลือกที่อยู่อาศัยสำหรับผู้สูงอายุเป็นเรื่องสำคัญที่ต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ และการเลือกคอนโดคนชราเองก็มีข้อแตกต่างจากที่อยู่อาศัยประเภทอื่น ซึ่งต้องพิจารณาหลากหลายเช่นกัน เพื่อให้มั่นใจว่าตัวผู้สูงอายุเองจะได้คอนโดห้องที่ตอบโจทย์ความต้องการในระยะยาว เข้ากับไลฟ์สไตล์ส่วนตัว เรามาดูกันเลยว่าจะต้องเลือกคอนโดผู้สูงอายุอย่างไรบ้าง?

• เลือกทำเลที่ตั้งที่สามารถเข้าถึงได้ง่าย

บรรยากาศรอบๆ คอนโดนั้นเป็นส่วนสำคัญสำหรับการใช้ชีวิตในวัยเกษียณอย่างมาก โดยเฉพาะกับกลุ่มผู้สูงอายุที่ต้องการความสงบเงียบ ดังนั้น ครอบครัวจึงควรมองหาคอนโดผู้สูงอายุที่มีอากาศถ่ายเทสะดวก ไม่ติดกับพื้นที่ที่มีเสียงดังรบกวนตลอดเวลา เพื่อให้ผู้สูงอายุสามารถใช้ชีวิตประจำวันได้อย่างเต็มที่พร้อมกับการพักผ่อนหย่อนใจ นอกจากนี้ ครอบครัวจะต้องไม่ลืมคำนึงถึงทำเลที่สามารถเข้าถึงได้ง่าย เผื่อในกรณีที่คนในครอบครัวอยากเข้าไปเยี่ยมเยือน การเข้าถึงที่เดินทางได้ง่ายจะช่วยให้เราสามารถไปพบปะกับท่านได้บ่อยขึ้น 

• การรักษาความปลอดภัยต้องดีและครอบคลุม

เมื่อครอบครัวจำเป็นต้องให้ผู้สูงอายุไปอยู่ไกลหูไกลตา จึงมักจะมีความเป็นกังวลเกี่ยวกับการใช้ชีวิตประจำวันของผู้สูงอายุว่าปลอดภัยหรือไม่ ยกตัวอย่างเช่น บริการรักษาความปลอดภัยหรือบริการทางการแพทย์ 24 ชั่วโมง, ระบบแจ้งเตือนเหตุฉุกเฉิน, การออกแบบภายในที่เหมาะกับผู้สูงอายุ เป็นต้น แนะนำให้ตรวจสอบรายละเอียดของโครงการ และเข้าไปชมตัวงานโครงการด้วยตัวเอง หรืออาจจะว่าจ้างผู้เชี่ยวชาญด้านการตรวจสอบคุณภาพคอนโดโดยเฉพาะ เพื่อเช็กความเรียบร้อยและฟังก์ชันที่ครบถ้วนตอบโจทย์ความต้องการของเรา

• บริการบำรุงรักษาสถานที่

หลายคอนโดคนชรามักจะมีปัญหาเกี่ยวกับการซ่อมบำรุงสถานที่ในระยะยาว ซึ่งเป็นปัจจัยที่น่าเป็นห่วงอย่างมากแม้แต่กับคนหนุ่มสาว เพราะมักจะสร้างความเครียดแบบไม่จบสิ้น ดังนั้น แนะนำให้ตรวจสอบรายละเอียดให้ดีก่อนว่าโครงการนั้นๆ เป็นที่น่าเชื่อถือหรือไม่ ประวัติการให้บริการเป็นอย่างไร หรืออาจปรึกษาผู้เชี่ยวชาญหรือรับคำแนะนำจากคนรอบข้างเพื่อคัดสรรคอนโดผู้สูงอายุที่มีบริการซ่อมบำรุงสถานที่อย่างต่อเนื่องและคุ้มค่า จะได้ไม่เป็นภาระของตัวผู้สูงอายุเองหรือครอบครัวในภายหลัง

• ต้องมีกิจกรรมที่หลากหลายรองรับความต้องการ

จากที่ได้อธิบายไปว่ากิจกรรมที่ส่งเสริม Active Living ของคอนโดผู้สูงอายุแต่ละแห่งนั้นไม่เหมือนกัน บางแห่งอาจจะมีกิจกรรมหลากหลาย มีคลับว่ายน้ำ กีฬาในร่ม มีโซนเล่นเกม หรือออกกำลังกาย ฯลฯ ดังนั้น ครอบครัวควรจะต้องสอบถามผู้สูงอายุโดยตรงว่าสนใจทำกิจกรรมแบบไหน หรือชื่นชอบอะไรเป็นพิเศษ เพื่อมองหาคอนโดที่มีกิจกรรมเหล่านั้น จะเป็นการตอบโจทย์ความต้องการของผู้สูงอายุมากที่สุด

• วางแผนทางการเงินให้เรียบร้อยก่อนตัดสินใจ

แน่นอนว่าเรื่องค่าใช้จ่ายเป็นปัจจัยสำคัญที่ขาดไม่ได้เลยเช่นกัน เราจึงต้องทำความเข้าใจก่อนว่าค่าใช้จ่ายในการอาศัยอยู่ที่คอนโดผู้สูงอายุนั้นอยู่ที่เท่าไหร่ โดยจะต้องพิจารณางบประมาณระยะยาวและรายได้หลังเกษียณ ซึ่งจะมีทั้งแบบเช่าหรือแบบซื้อเป็นกรรมสิทธิ์ นอกจากราคาซื้อแล้ว ต้องคำนึงถึงค่าใช้จ่ายอื่นๆ เช่น ค่าส่วนกลาง ค่าสาธารณูปโภค และภาษีที่เกี่ยวข้อง บางโครงการอาจมีโปรโมชั่นหรือส่วนลดสำหรับผู้สูงอายุโดยเฉพาะ ควรเปรียบเทียบราคาระหว่างโครงการต่างๆ และพิจารณาถึงความคุ้มค่าในระยะยาว จะช่วยให้มั่นใจได้ว่าจะสามารถอยู่อาศัยได้อย่างสบายใจโดยไม่เป็นภาระทางการเงินในอนาคต

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับคอนโดผู้สูงอายุ

อย่างที่เราทราบกันดีว่ายุคนี้ คอนโดคนชราอายุกำลังมาแรงอย่างมาก แต่ผู้สูงอายุหลายท่านหรือครอบครัวที่มีผู้สูงอายุยังอาจลังเลว่าการอยู่คอนโดผู้สูงอายุเหมาะกับความต้องการของเราหรือไม่ จะอยู่สบายจริงหรือ? ปลอดภัยแค่ไหน? ค่าใช้จ่ายคุ้มค่าไหม? คำถามเหล่านี้ผุดขึ้นในใจของผู้ที่กำลังมองหาที่พักอันสงบเงียบเหมาะกับไลฟ์สไตล์วัยเกษียณ ดังนั้น Saijai ขอพามาไขข้อข้องใจกันผ่านคำถามยอดฮิตที่มักได้ยินบ่อยๆ เพิ่มเติมดังต่อไปนี้

• จะรู้ได้อย่างไร? ว่าเมื่อไหร่ควรให้ผู้สูงอายุย้ายไปอยู่คอนโด

ต้องสังเกตจากความสามารถในการดูแลตัวเองของผู้สูงอายุ ความปลอดภัยในบ้านปัจจุบัน และความสามารถของครอบครัวในการดูแลว่าทำได้อย่างเต็มที่หรือไม่ หากพบว่าผู้สูงอายุต้องการการดูแลมากขึ้น แต่ครอบครัวไม่สามารถให้เวลาได้เต็มที่ หรือที่อยู่อาศัยเดิมไม่เหมาะสมกับการใช้ชีวิตของผู้สูงอายุ อาจจะต้องเริ่มพิจารณาย้ายผู้สูงอายุไปยังคอนโดที่เหมาะสม

• หากผู้สูงอายุมีโรคประจำตัว คอนโดผู้สูงอายุจะสามารถดูแลได้ครอบคลุมไหม?  

คอนโดผู้สูงอายุส่วนใหญ่มีบุคลากรทางการแพทย์อยู่ประจำและมีระบบรองรับสถานการณ์ฉุกเฉิน จึงสามารถรองรับผู้สูงอายุที่มีโรคประจำตัวทั่วไปได้ แต่ควรตรวจสอบรายละเอียดกับทางโครงการโดยตรง เพราะบางแห่งอาจมีข้อจำกัดในการรับผู้ที่มีโรคประจำตัวบางประเภท ครอบครัวจึงควรแจ้งข้อมูลทางสุขภาพของผู้สูงอายุให้ครบถ้วนและปรึกษาผู้เชี่ยวชาญเพื่อประเมินความเหมาะสม

• มีทางเลือกอื่นนอกจากคอนโดผู้สูงอายุไหม?

สำหรับผู้สูงอายุที่ไม่ต้องการย้ายไปอยู่ที่อื่น หรือครอบครัวยังไม่พร้อมในหลายๆ ด้าน ก็ยังมีทางเลือกอื่นหลายทาง เช่น การจ้างคนดูแลผู้สูงอายุมาประจำที่บ้าน, การต่อเติมหรือปรับปรุงบ้านให้เหมาะกับผู้สูงอายุ, การใช้บริการ Day Care ผู้สูงอายุ หรือการเข้าร่วมชมรมผู้สูงอายุในชุมชนเพื่อสร้างปฏิสัมพันธ์ที่ดีต่อคนรอบข้าง ช่วยให้ผู้สูงอายุไม่รู้สึกเปล่าเปลี่ยว เป็นต้น

• ถ้าผู้สูงอายุย้ายไปอยู่คอนโด แต่ไม่สามารถปรับตัวได้ เราควรทำอย่างไร?  

หากเกิดปัญหาการปรับตัวเข้ากับที่อยู่ใหม่ ควรพูดคุยกับเจ้าหน้าที่ของคอนโดเพื่อหาทางช่วยเหลือ อาจเพิ่มความถี่ในการเยี่ยมของครอบครัว หรือหากิจกรรมที่ผู้สูงอายุชอบเพื่อสร้างความคุ้นเคยกับที่อยู่ใหม่ โดยบางคอนโดอาจมีโปรแกรมช่วยปรับตัวโดยเฉพาะ ขึ้นอยู่กับนโยบายของโครงการนั้นๆ แต่ถ้าปัญหายังคงอยู่ ครอบครัวอาจต้องพิจารณาทางเลือกอื่นที่เหมาะสมกว่านี้

สรุป คอนโดผู้สูงอายุเหมาะกับวัยเกษียณที่อยากมี Active Living หรือเปล่า? 

คอนโดผู้สูงอายุ หรือ Active Living Condo เป็นทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับการใช้ชีวิตในวัยเกษียณของผู้สูงอายุ โดยมุ่งเน้นการส่งเสริมสุขภาพ สังคม และคุณภาพชีวิตที่ดี ซึ่งหากผ่านการพิจารณาปัจจัยต่างๆ อย่างรอบคอบก็จะช่วยให้ผู้สูงอายุสามารถใช้ชีวิตช่วงเกษียณได้อย่างมีความสุขและอายุยืน

อย่างไรก็ตาม การเลือกที่พักอาศัยสำหรับผู้สูงอายุนั้นเป็นเรื่องสำคัญที่ต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ ไม่ว่าจะเป็น Active Living Condo, บ้านพักคนชรา หรือศูนย์ดูแลผู้สูงอายุ หากสนใจ สามารถค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมและเปรียบเทียบตัวเลือกต่างๆ ได้ที่ Saijai.co แพลตฟอร์มรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับบ้านพักคนชรา ศูนย์ดูแลผู้สูงอายุ และบริการคนดูแลผู้สูงอายุที่บ้าน ให้สามารถเลือกสรรสิ่งที่ดีที่สุดแด่ผู้สูงอายุในครอบครัว